9 ข้อแตกต่าง POS Online กับ Off-line

5120 จำนวนผู้เข้าชม  | 

POS Online&Offline

โปรแกรม POS Online กับ โปรแกรม POS Offline 

  • โปรแกรม POS Online คือ โปรแกรมขายหน้าร้าน ที่ต้องใช้อินเตอร์เน็ต ในการขายสินค้าตลอดเวลา 

  • ถ้าเน็ตขัดข้อง โปรแกรม POS Online จะทำงานไม่ได้เลย ต้องรอจนกว่าจะมีสัญญาณอินเตอร์เน็ต จึงจะขายสินค้าต่อได้

  • โปรแกรม POS Offline คือ โปรแกรมคิดเงินหน้าร้าน ที่ทำการขายและเก็บเงิน โดยไม่ต้องใช้อินเตอร์เน็ต
  • ร้านค้าในห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่ เป็นแบบ Offline จะใช้อินเตอร์เน็ต เมื่อต้องการ ส่งข้อมูลของยอดขายเท่านั้น เช่นเดียวกับ 7-11

ข้อแตกต่างของ POS Online 

ข้อดี ของโปรแกรม POS แบบ Online

  • ใช้เงินลงทุนในการใช้โปรแกรม POS สำหรับ ร้านค้าปลีก และร้านอาหาร ครั้งแรกลงทุนไม่สูงมากนัก

  • ชำระค่าโปรแกรมขายสินค้าหน้าร้าน ต่อเดือนไม่สูง เมื่อเทียบกับยอดขายต่อเดือนทำงานได้กับทุกอุปกรณ์ เช่น มือถือ,Tablet ส่วนใหญ่ร้านอาหารและร้านกาแฟ นิยมใช้โปรแกรม POS ขายหน้าร้านแบบนี้

  • สามารถดูรายงานขายสินค้า ได้ทาง Online ได้ตลอดเวลา ทุกที่ทั่วโลก ทำให้ร้านค้าและร้านอาหาร ได้รับความสะดวกมาก เพราะไม่ต้องเดินทางมาที่ร้าน

  • เจ้าของร้าน สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ โดยใช้สัญญาณ Internet 

  • โปรแกรม POS ร้านอาหารและร้านกาแฟ จะมี Application บนมือถือ ไว้รับ Order และให้แคชเชียร์เก็บเงิน ได้สะดวกมากขึ้น

  • ชุด POS คิดเงินหน้าร้าน รุ่นใหม่ๆ ออกแบบเครื่องให้ ดูสวยงามล้ำสมัย ช่วยให้ร้านดูดีและทันสมัย

  • อุปกรณ์คิดเงิน Hardware POS Android มีราคาถูกกว่าแบบ POS Windows เพราะไม่มี HDD โดยจะเก็บข้อมูลไว้บน Cloud ทำให้ต้นทุนถูกลง CPU และหน้าจอสัมผัส จะใช้แบบเดียวกับมือถือ ปัดเลื่อนทำได้ง่าย

  • สามารถดูข้อมูล การขายสินค้า และสต็อกสินค้าคงเหลือ แบบเชื่อมกันได้หลายสาขาได้

 

ข้อเสีย ของโปรแกรม POS แบบ ออนไลน์

  • เป็นระบบเช่า ต้องจ่ายค่าใช้โปรแกรม POS ทุกเดือน จนกว่าจะเลิกใช้ (ลองคิดเป็นรายปีดู)

  • อุปกรณ์ต่างๆ เป็นของผู้ให้บริการ ถ้าเกิดเสียหาย ทางร้านต้องรับผิดชอบทั้งหมด

  • ถ้าสัญญานอินเตอร์เน็ตช้า หรือขัดข้อง จะทำให้ร้านค้าปลีก และร้านอาหาร เกิดปัญหาระหว่างการเก็บเงิน และการขายสินค้าได้ ลูกค้าอาจไม่ประทับใจ

  • มีโอกาสเสี่ยง ที่ Order ของอาหาร หายระหว่างทาง โดยไปไม่ถึงห้องครัว ทำให้ลูกค้ารอนาน และไม่พอใจในการบริการ จนอาจเลิกใช้บริการที่ร้านไปเลย

  • ข้อมูลการขายทุกอย่าง อยู่บน Cloud มีโอกาสที่ หน่วยงานที่ดูแลเรื่องภาษีรายได้ อาจขอเข้ามาดูข้อมูลการขาย จากผู้ให้บริการ หรือเจ้าของโปรแกรม POS ได้

  • ต้องเสียทั้งค่า อินเตอร์เน็ต และค่าโปรแกรม POS ร้านอาหาร ทุกเดือน เท่ากับต้องจ่ายทั้ง ค่า Net และค่าโปรแกรม POS ไปทุกเดือน ไปจนกว่าจะเลิกใช้

  • โปรแกรม POS ร้านอาหาร และร้านกาแฟ ส่วนใหญ่จะมี การจำกัดผู้ใช้งาน และจำกัดข้อมูลสินค้า ตามแพ็คเกจที่เลือก ถ้าต้องการมากกว่านั้น ต้องเสียค่าแพ็คเกจ ที่สูงขึ้น ถึงจะใช้งานได้ตามความต้องการ

  • โปรแกรม POS ร้านค้าปลีก และร้านอาหาร ที่เป็นแบบ Online จะใช้ฐานข้อมูลโปรแกรมขนาดเล็ก เก็บข้อมูลการขาย และสต็อกสินค้าได้น้อย เมื่อใช้ไปสักระยะ ก็ต้องซื้อแพ็คเกจที่สูงขึ้น

  • หากทางร้านค้า หรือร้านอาหาร ต้องการขอเปลี่ยนแปลง หรือ แก้ไขการทำงานในโปรแกรม POS จะไม่สามารถทำได้

 

offline&online

 เลือก POS ที่ร้านไหนดี

ข้อดี ของโปรแกรม POS แบบ Offline

  • ไม่ต้องจ่ายรายเดือน ชำระครั้งเดียวจบ ใช้ได้ตลอดจนกว่าจะเลิกใช้ จะประหยัดและคุ้มค่ามากกว่า โปรแกรม POS แบบ Online มาก

  • ใช้อุปกรณ์เครื่องคิดเงิน POS ของเราเอง ไม่ต้องเช่าอุปกรณ์ เหมือนโปรแรกม POS แบบออนไลน์

  • ข้อมูลการขายสินค้า และกำไร ของร้านค้า จะอยู่ในคอมพิวเตอร์ ของทางร้านเอง 

  • หมดกังวัล เรื่องข้อมูล รั่วไหลไปอยู่กับหน่วยงานเก็บภาษี ไม่มีใครรู้ยอดขายของร้านเรา

  • ไม่จำกัดผู้ใช้ ไม่จำกัดจำนวนสินค้า ไม่จำกัดในการเก็บข้อมูลต่างๆ เพราะมี HDD ขนาดใหญ่ เป็นของทางร้านค้าเอง

  • สามารถดูย้อนหลัง ข้อมูลการขายสินค้า และกำไร ได้ไม่จำกัดระยะเวลา

  • ไม่ต้องเสียค่าอินเตอร์เน็ต ทุกเดือน เพราะโปรแกรม POS ร้านค้าและร้านอาหาร แบบ Offline ไม่ต้องใช้อินเตอร์เน็ต ในระยะยาวประหยัดกว่า

  • ไม่ต้องต่อ Internet ระหว่างการขายสินค้า ทำให้มีความแน่นอน ของการคิดเงินให้กับลูกค้า แคชเชียร์เก็บเงินได้รวดเร็วกว่า

  • ดูรายงาน Online ผ่านมือถือได้ทุกที่ โดยไม่ต้องจ่ายรายเดือน ซึ่งข้อมูลการขายและสต็อกสินค้า เป็นแบบ Real Time เช่นเดียวกับ โปรแกรม POS Online

 

ข้อเสีย ของโปรแกรม POS แบบ Offline

  • ใช้เครื่อง POS ที่เป็น Windows อาจดูไม่ทันสมัย แต่ทนทานและคุ้มค่า คุ้มราคากว่ามาก

  • แก้ไขข้อมูล Online ไม่ได้ (บางโปรแกรมทำได้ ต้องซื้อ License เพิ่ม)

  • ดูรายงาน Online ไม่ได้ (ปัจจุบัน บางโปรแกรมดูได้แล้ว เช่น Real4POS)

  • การเชื่อมต่อหลายสาขา มีราคาสูง

  • ต้องใช้กับเครื่อง POS ที่เป็นระบบ Windows เท่านั้น

  • นำไปใช้กับ มือถือ และ Tablet ไม่ได้

  • ไม่สะดวกในการทำการขาย นอกสถานที่

  • เชื่อมต่อกับ App ต่างๆ ไม่ได้

  • เก็บค่า License โปรแกรม ต่อเครื่องขายของแคชเชียร์

 

สรุปข้อแตกต่างของ โปรแกรม POS Online และ Offline 

  • สิ่งที่ท่านจะได้จากโปรแกรม POS แบบ Online คือ ทันสมัย แต่ต้องจ่ายทุกเดือน

  • แต่ถ้าเลือกโปรแกรม POS แบบ Offline ระยะยาวประหยัดกว่า คุ้มค่ากว่า

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้